Afleveringen

  • "ในสมัยพุทธกาล ก็มีแง่มุมหนึ่งเนาะที่มีปริพาชกเขาตั้งคำถามกันว่า คนมีเชื้อเหลือ..ก็เรียกว่ายังมีกิเลสอยู่..ตายแล้ว ต้องตกนรกไหม ?

    เขาคิดว่า บุคคลที่มีกิเลสอยู่ตายแล้วต้องตกนรกทุกคน

    เหตุการณ์ก็มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง เป็นรุ่งเช้า พระสารีบุตรท่านก็ได้เตรียมห่มจีวร เตรียมบาตร สะพายบาตรอย่างดีเลย จะไปเตรียมตัวไปบิณฑบาตยามเช้าที่เมืองสาวัตถี

    พอเดินทางไปสักพักหนึ่ง รู้สึกว่ายังเช้าไป ยังเช้าไปอยู่ ญาติโยมก็คงยังจะไม่ออกมากัน ก็เลยแวะไปที่สำนักปริพาชกที่หนึ่งดีกว่า

    แต่พอไปที่สำนักปริพาชก เขาก็คุยกันนะ คุยกัน ..เขาก็บอกกันว่าบุคคลมีเชื้อเหลือ ก็คือยังมีกิเลสอยู่ ..ตายแล้วเนี่ยต้องตกนรกทุกคน

    เราก็รู้จักนะ โลภก็ดึงไปเป็นเปรต หลงก็ไปเป็นเดรัจฉาน มีโทสะขึ้นมามาก ๆ สร้างเหตุโทสะไว้มาก ๆ กริ้วมาก ๆ ก็ไปเป็นสัตว์นรก

    เขาก็คิดว่าถ้าใครยังมีกิเลสอยู่ ตายไปต้องตกนรกทุกคน

    พระสารีบุตรท่านฟัง ๆ นะ ผู้มีปัญญาฟังแล้ว ก็บางทียังไม่พูดอะไรนะ ไม่รับรอง ไม่คัดค้าน ไม่ตอบอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวไปบิณฑบาตเสร็จก่อน..

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    ค่ำ 15 เมษายน 2567

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • "..สังขารทั้งหลายก็ให้รู้ไว้เลยว่าไม่พ้นจากคุณลักษณะอันเป็นปกติของธรรมชาติ คือ #ความไม่เที่ยง นั่นเอง
    .
    ถ้าสิ่งต่างๆเนี่ยเราเห็นได้ว่ามันไม่เที่ยงนะ มันไม่แน่นอน มันพร้อมจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเนี่ย ใจเราจะประพฤติ จะวางใจต่อสิ่งนั้นได้ถูก จะอารมณ์อันดีก็ตาม อารมณ์อันไม่ดีก็ตาม ถ้าเห็นว่า #เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ใจจะไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่นอะไรกับมันมากนะ เพราะว่าเดี๋ยวมันมาเดี๋ยวก็ไป เดี๋ยวมันไปปุ๊บเดี๋ยวมันก็มาอีก
    .
    ธรรมชาติก็มีอยู่เท่านี้นะ ทีนี้ถ้ามันมาๆไปๆอยู่อย่างนี้เนี่ย เราจะไปอะไรกับมันได้ล่ะ เรานั่งอยู่เฉยๆให้มันไปเถอะ ให้สังขารมันทำหน้าที่ของมันไป มันจะปรุงดีบ้างนะก็เรื่องของมัน มันจะปรุงไม่ดีก็เรื่องของมัน เรียกว่า
    .. ช่างมันได้
    .. ปล่อยมันได้
    ก็ให้มันเป็นไปเถอะ
    .
    ทีนี้จิตใจก็จะไม่ไปข้องแวะกับมันแล้วนะ เรียกว่า
    .. อำนาจอิทธิพลของสังขารเริ่มไม่มีอิทธิพลกับจิตใจเรา
    .
    จิตใจเราก็วางเฉยได้ #วางเฉยด้วยการไม่ไหลตาม เพราะเห็นสรรพสิ่งตามความเป็นจริงแล้วเนี่ย ก็เป็นองค์ธรรมอันสำคัญเหมือนกันนะ ปฏิบัติไปก็ต้องเห็นตามความเป็นจริง ความไม่เที่ยง ความที่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเข้าไปยึดมั่นถือมั่นและใจเป็นทุกข์ขึ้นมาเลย ใจมีความรู้สึกว่าอยากจะให้สิ่งนี้เที่ยงแท้แน่นอน ทำไม่ได้นะ ถ้าทำได้เนี่ยก็ให้รู้ไว้เลยนะว่าชีวิตนี้เราอาจจะไม่พ้นทุกข์กันแล้วล่ะถ้าเราควบคุมอะไรให้มันแน่นอนได้ตลอด
    .
    ก็เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้นะว่าถ้ารูปนามขันธ์ 5 นี้แล้ว ถ้าเที่ยงแล้วเนี่ยให้รู้ไว้เลยว่าหนทางแห่งความทุกข์แห่งความพ้นทุกข์เนี่ยอาจจะไม่มีเลยนะ แต่ข้อดีของการที่สังขารทั้งหลายมันไม่เที่ยงก็คือสิ่งนี้เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ จะเห็นความเปลี่ยนแปลง.."

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    เช้า 15 เมษายน 2567

    #พรากออกจากอารมณ์ #อาการของจิต #สังขารคววามปรุงแต่ง #จิตไม่เที่ยง #พระชยากร #ธรรมอารี

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • Zijn er afleveringen die ontbreken?

    Klik hier om de feed te vernieuwen.

  • "...แต่ถ้าเรามองในภาพใหญ่ ในชีวิตเรา บางทีเจอเรื่องร้าย ๆ เข้ามานะ เจออุปสรรค ปัญหา หนักอกหนักใจ

    ทุกวันนี้ก็ปัญหาเยอะเนาะ ปัญหาที่ทำงาน ปัญหาที่บ้าน ปัญหาครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจ อะไรต่าง ๆ

    บางทีก็ติดขัด ติดขัด ติดปัญหาทั้งหลาย ..ก็เข้ามา บางทีชีวิตก็เหมือนมองหาทางออกไม่เจอ

    แต่ผู้ที่สร้างบุญกุศลไว้ดี สร้างเหตุปัจจัยที่ดีไว้ พอเจอเรื่องร้าย ๆ บางทีมันจะมีเหตุปัจจัยที่ทำให้หลุดออกมาได้นะ

    เราจะเริ่มสัมผัสได้นะ คุณงามความดีที่สร้างไว้ ไม่เคยหายไปไหนนะ

    ถ้ามองกันแบบเห็นกันแบบง่าย ๆ ..สร้างสติ สร้างความเคยคุ้นที่จะอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ฟังเทศน์ฟังธรรม พรากออกจากกาม รักษาศีล

    โยมบางทีเจอเรื่องทุกข์ สติเกิดเองนะ

    บางที ทำไมอยู่ ๆ อยากรักษาศีล 8 ขึ้นมาเอง อยากให้เนกขัมมะเอง อยากตื่นแต่เช้ามาเดินจงกรมนั่งสมาธิ มาไหว้พระสวดมนต์เอง ..เป็นอานิสงส์ทั้งนั้นเนาะ จากการที่เพาะบ่มสร้างคุณงามความดีในจิตใจ

    แล้วทำไมเรื่องใหญ่ ๆ จะไม่เกิดขึ้นได้ล่ะ ?..."

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    ค่ำ 14 เมษายน 2567

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • #ไม่ปล่อยใจไหลไปตามกิเลส
    #แก้ที่ต้นตอ
    #เหตุแห่งทุกข์

    .. เพราะว่ามีเหตุอยู่ มีเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์อยู่ในจิตใจ ก็เรียกว่า เกิดจากความหลงผิดก็ได้ ความหลงผิดที่เป็นทุนเดิมในจิตใจอยู่แล้ว
    .
    การที่คนทั่วไปเขาไปแสวงหาความสุขเข้ามาทับถมเข้ามาทักถมความทุกข์ที่มีอยู่เดิม ก็เรียกว่าเป็นการกลบหน้าไป เหมือนเอาอะไรมายัดใต้พรม พรมก็ดูจะสะอาดนะ ดูจะสงบเรียบร้อยดี แต่ว่าเศษฝุ่นเศษอะไรมันก็ยังกองอยู่ข้างล่างอยู่แค่เอาพรมออกขึ้นมาก็เจอแล้วนะกองขยะข้างใต้ที่ซ่อนอยู่
    .
    ก็เปรียบเหมือนความทุกข์นะ ความทุกข์ ถ้าเราไม่ได้ไปจัดการที่ข้อประพฤติข้อปฏิบัติที่ไปแก้ไขที่ต้นตอ คนทางโลกเนี่ยเขาก็จะรู้สึกว่าการที่เขาได้หาอะไรทำ ดูหนังฟังเพลงก็ดี หาความสุขชั่วคราว มาโปะหน้าไว้เนี่ย เหมือนว่าจะเป็นการแก้ทุกข์ได้แล้วนะ ถ้าอย่างช่วงสงกรานต์ก็ไปสาดน้ำกันให้ร่างกายเนี่ยมันได้รับความเย็นขึ้นมา ก็ทำได้แค่ชั่วครู่ชั่วคราว ทำได้แค่แป๊บเดียวเท่านั้น
    .
    แต่ถ้าจะจัดการกับที่ต้นตอจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าไปหาความเย็น หาความสุขความสบาย เข้ามาโปะหน้าไว้นะ
    .
    แต่ว่าเป็นการเอาความทุกข์ที่มันมีอยู่แล้วในจิตใจออกไปทีละเล็กละน้อย ซึ่งถ้าใครเอาออกไปได้หมดเนี่ย ก็เรียกว่า ความทุกข์ก็ไม่มี
    .
    #ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีความทุกข์ไม่มี
    #ใจจะพบกับความสุขขึ้นมาได้เอง
    .
    อันนี้จะเป็นคนละมุมกันเลยนะกับการวิ่งไปแสวงหาความสุข เข้ามาแก้ขัดความทุกข์ที่มันเผชิญในชีวิตเรา แต่ถ้าปฏิบัติได้ถูกหลักนะ ถูกหลักตามที่พระพุทธองค์ท่านสอน เปรียบได้กับการนำทุกข์ออกไปทีละเล็กละน้อย ก็ได้ข้อปฏิบัติที่เราก็อาจจะคุ้นเคยกันอยู่นะ
    .. เรื่องของทานก็ดี
    .. เรื่องของการรักษาศีลก็ดี
    .. เรื่องของการเจริญภาวนาก็ดี
    .
    กิจอันเบื้องต้นนี่แหละ แต่ว่าแก้กันที่ต้นตอเลยนะ เรียกว่าเป็นการเอาความร้อนในจิตใจออกไปทีละเล็กละน้อย

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    เช้า 14 เมษายน 2567

    #พระชยากร #ธรรมอารี

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • "...เวลามีอารมณ์หนึ่งต้องรีบออกมานะโยมนะ ต้องรีบออกมา รีบออกมามีสติ ตื่นขึ้นมาก่อน สร้างความเคยคุ้นที่จะอยู่กับความสงบ

    ทุกครั้งที่มีสติ จิตจะเปลี่ยนทาง อยู่กับความสงบ อาศัยลมหายใจก็ได้ มีกรรมฐานนะ อาศัยลมหายใจ อาศัยทำความรู้สึกตัว รู้กายที่นั่งอยู่ จิตจะเริ่มเปลี่ยนทาง จะเริ่มคุ้นกับความสงบ

    ทั้งที่ความสงบเป็นสิ่งที่ทุกคนควรมีนะ ความสงบร่มเย็น แต่ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ได้ไม่นานนะ เพราะว่าความเคยคุ้นเก่าดึงไว้ ความเคยคุ้นเก่าดึงไว้

    อารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง กิเส ตัณหา มันก็ดึงไว้ มีความเคยคุ้นเหมือนกัน เคยคุ้นที่จะดึงไปกับกระแสโลก

    ต้องอาศัยความเพียรนะ ฝึกฝนอบรมพัฒนาจิตใจ ให้ใจได้อยู่กับความสงบซะส่วนใหญ่ เขาจะไม่ค่อยเอาความร้อนทั้งหลาย

    ความทุกข์ร้อน ความร้อนอกร้อนใจทั้งหลายมันก็กลายเป็นสิ่งแปลกปลอม ชีวิตก็ร่มเย็นเป็นสุขขึ้นมา

    มันก็ต้องแลกเนาะ ชีวิตเราจะอยู่กับกิเลสจนป่วยเป็นโรค ..โรคจิตมั่นถือมั่นบ้าง ..โรคเครียดบ้าง

    หรือว่าเราก็จะให้ความสำคัญกับพระธรรม นำพระธรรมมาปฏิบัติธรรม ..อย่างน้อยก็มีศีลนะ มีสติสัมปชัญญะ รู้เนื้อรู้ตัวอยู่ ต้องมีกรรมฐาน มีหลักของใจ มีกายคตาสติเป็นหลักของใจ มีเสาเข็มเสาหลักปักลงให้มั่นที่ฐานกาย

    อยู่กับฐานกาย ใจสงบร่มเย็นเป็นสุข อยู่ไปเรื่อย ๆ จิตก็จะค่อย ๆ สงบขึ้นมา ตั้งมั่นขึ้นมา ก็จะเดินทางเข้าสู่ปฐมฌาน สงัดจากกามและอกุศลธรรม ชีวิตก็ร่มเย็นนะ

    ใจปราศจากตัณหาก็ชิน ชินความสงบร่มเย็น..."

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    ค่ำ 13 เมษายน 2567

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • "..สงกรานต์ ทางบาลี “สังกันตะ” “สัง” แปลว่าพร้อมไปด้วย ถ้าโดยความหมายแล้ว แปลว่า ก้าวล่วง ก้าวเดินไปข้างหน้า ก็หมายถึงระยะเวลาที่ผ่านไปครบ 1 ปี
    .
    แต่ถ้าเราจะเอาความหมายที่ลึกซึ้งไปกว่านั้นเนี่ย ในความเป็นจริง ในด้านของสภาพธรรม เวลาเกิดขึ้นจากการที่เราได้ดำริจุดเริ่มมาก่อน แต่ถ้าเราไม่เคยจับมาก่อนเลยว่าเราจะเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ในทุกๆขณะนั้นก็มีแค่ปัจจุบันขณะเท่านั้น ก็มีแค่ปัจจุบันธรรมนั่นเเหละที่ผ่านไปๆ มีแค่ความรู้สึกที่ไหลเวียนเปลี่ยนผ่านไปเรื่อยๆ ความเป็นจริงแล้วก็มีอยู่เท่านี้นี่เอง
    .
    แต่ในทางโลก ถ้าคนที่ต้องใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้คำนึงถึงสภาพของสิ่งที่เป็นนามธรรมบ้าง ในด้านของจิตใจก็ต้องหาอะไรที่จับต้องได้ง่ายหน่อย ก็ใช้ปฏิทินก็ได้เป็นช่วงระยะเวลาก็ได้ ถ้าไม่จับนะไม่เอาอะไรมานับ ก็สื่อสารกันยาก พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง
    .
    ถ้าในความหมายที่เรารู้จักกันก็สงกรานต์ วันขึ้นปีใหม่ไทยนั่นเอง ปีใหม่ก็แปลว่า ณ วันนี้เมื่อปีที่แล้วก็เวียนมาครบ 1 ปีพอดี
    .
    ซึ่งระยะเวลาแล้วก็หมุนไปตลอดนะ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเปลี่ยนแปลงโดยปัจจุบันขณะนี่แหละ แต่พอนับกันไปนับกันมา ก็คบไป คบวินาทีบ้าง คบนาทีบ้าง ครบชั่วโมงบ้าง ก็ไปวันหนึ่งผ่านไป เดือนหนึ่งผ่านไป ปีหนึ่งผ่านไป
    .
    สิ่งที่สำคัญนะที่เราได้พึงตระหนักกันก็คือว่า

    .. เวลาในจิตใจเรามีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดนะ
    .. แต่ระดับคุณภาพจิตใจเราได้เปลี่ยนแปลงไปตามระยะเวลาที่ไหลเวียนเปลี่ยนไปหรือเปล่า
    .
    สำคัญนะของชาวพุทธเราได้มีโอกาส ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ในพบพระพุทธศาสนาด้วยแล้ว แต่ละวินาทีนมีความเปลี่ยนแปลงไหมในจิตใจเรา หรือใครทำอะไรในปีก่อนๆในปีนี้ก็ยังทำอยู่แบบนั้น
    .
    อันนี้ก็มองได้หลายมุมนะ ถ้าเรายกระดับคุณภาพจิตใจไว้ดีแล้ว ใจไม่ทุกข์เลยเรียกว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ แต่ว่าก็ยังพัฒนาต่อยอดได้อีก เรียกว่าถ้าเหตุแห่งทุกข์ยังมี ก็ยกระดับจิตใจขึ้นไป ให้ปีหนึ่งที่ผ่านไปให้เราได้เรียนรู้สัจธรรมความจริงของธรรมชาติมาบ้าง ก็อาจจะเป็นเหตุให้ทุกข์ที่เกิดขึ้นในจิตใจเรานั้นมันค่อยๆลดน้อยลงไป
    .
    แต่ในทางกลับกันเลย ในอีกมุมหนึ่งนะถ้ามีแค่ระยะเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปเนี่ยแต่จิตใจยังอยู่เท่าเดิมเลย เรียกว่าปีก่อนหน้าเป็นอย่างไร ในปีนี้เป็นอย่างนั้นเลย มีความทุกข์เกิดขึ้นมากน้อยขนาดไหนก็คงไว้เท่านั้น ก็ในอีกมุมหนึ่งก็ยังดีนะ ใจไม่ทุกข์มากก็ดีแล้ว
    .
    แต่ถ้าในมองในมุมด้านของธรรมะ ก็เรียกว่าเสียโอกาสอยู่ ในแต่ละวันที่ล่วงเลยไปถ้าเราอาศัยการฝึกฝนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ความทุกข์ที่เกิดขึ้นในใจหายไปทีละเล็กละน้อยอยู่แล้วนะ เรียกว่าจะค่อยๆลดน้อยลงไปนะเป็นเรื่องธรรมดา
    .
    แต่ถ้าเราปล่อยปละละเลยให้แต่ละวินาทีที่ผ่านไป มีการกระทบ มีสติสัมปชัญญะรับรู้แต่ละครั้ง ปล่อยไปเลย ปล่อยให้โอกาสที่เราจะได้ฝึกฝนเรียนรู้ธรรมะเนี่ยเลยผ่านไปล่องลอยผ่านไปเหมือนระยะเวลา ก็เรียกว่า เสียโอกาส นั่นเอง เราก็จะได้ใช้ชีวิตให้เหมาะสม ให้เข้ากับสิ่งที่เรียกว่าวันสงกรานต์จะได้ก้าวล่วงล่วงเลยไปโดยการพัฒนาจิตใจไปด้วย.."

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    เช้า 13 เมษาคม 2567

    #วันสงกรานต์ #ก้าวหน้า #ยกระดับจิตใจ #พระชยากร #ธรรมอารี

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • Q ตั้งใจปฏิบัติดีแล้วทำไมอกุศลยังเกิดอยู่ ?

    "...โยมจะเริ่มเห็นอริยสัจ จะเห็นเหตุแล้ว ต่อให้เจริญกุศล เจริญกุศลไป จะเริ่มเห็นเหตุ แต่มันมีอะไรดันมา เป็นนิวรณ์ที่ดันมา ดันมาจากอาสวะ ก็มาจากอนุสัยเนี่ยแหละ จะเริ่มเห็นเหตุแล้ว

    จะเริ่มเห็นเหตุแล้วว่าสิ่งที่เคยก่อไว้ ตามมาหมดนะ ..ความเคยคุ้นที่ไปก่อไว้ทั้งหมด นิสัยที่ไม่ดีที่ไปทำไว้ทั้งหมด มันก่อเป็นเหตุ แล้วส่งเป็นผลมาทั้งหมด ..ที่ผุด ๆ มาเนี่ยก็ใช้เวลานะ

    แต่ก็อยู่ในเส้นทางที่จะลดละเลิกก็ทำถูกแล้ว รักษาศีล และเจริญภาวนาต่อเนื่องกันไป..

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    ค่ำ 12 เมษายน 2567

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • "..การประพฤติ การปฏิบัติ ทำอะไร ถ้ามีสัมมาทิฐิไว้ เดี๋ยวข้ออื่นๆจะกลายเป็นสัมมาขึ้นมาได้เอง เรียกว่า
    .. ถ้าเรามีสัมมาทิฏฐิเป็นองค์นำ
    .. ก็เปรียบเหมือนเห็นรุ่งอรุณของธรรมทั้งหลาย
    .
    .
    บางทีถ้าเราละเลยสัมมาทิฏฐิไป ศีล 5 เราก็ละเมิดล่วงละเมิดได้ง่ายนะ บางทีคนไปตั้งใจฝึกในภาคของจิตตสิกขาเลย ศีลก็ไม่สนใจ ในขั้นปัญญาก็ไม่สนใจ

    ซึ่งในสิ่งที่เรียงตามอริยมรรค ก็จะมี #ปัญญาเป็นองค์นำ มีสัมมาทิฏฐิ มีสัมมาสังกัปปะ เป็นองค์นำ ก็จะประกอบไปด้วยปัญญา มีศีล และสมาธิ

    แต่ถ้าเราเอาสิ่งที่เราคุ้นเคยกันอยู่ตลอด ก็จะคุ้นเคยกับคำว่า ศีล-สมาธิ-ปัญญา กันเสียมากกว่า แต่ในภาคปฏิบัติที่เรียงกันอยู่ในมรรคเลยเนี่ย ท่านเอาปัญญาเป็นองค์นำนะ มีสัมมาทิฏฐิเป็นองค์นำ

    ถ้าเรามีปัญญาเป็นองค์นำเสียแล้วเนี่ย ให้รู้ไว้ก่อนเลยว่า องค์อื่นๆที่จะตามมาเนี่ยเป็นขั้นของการปฏิบัติในส่วนของศีลก็ตาม ในส่วนของการพัฒนาทางจิตใจและการเจริญภาวนาก็ตาม ก็เรียกว่าปลอดภัยนะ ปลอดภัย ปฏิบัติไปแล้วไม่ได้รับผลข้างเคียง

    ผลข้างเคียงจากความเห็นผิดเป็นทุนเดิม เราเข้ามาสู่ขั้นตอนของการยกระดับพัฒนาจิตใจกันเลยนะ แต่ไม่ได้มีปัญญาตามมาด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ จิตใจที่เราเอามาฝึกเอามาฝืนเอามาขัดเกลา จิตตัวนี้ยังมีกำลัง มีกำลังในอีกฟากหนึ่งที่ไม่ใช่สัมมาทิฏฐิ เมื่อตัวนี้มันอ้วนพลีมันออกกำลังกายได้อย่างดีแล้วนี้ ที่นี้แหละจะให้วางก็วางยากแล้วนะ ถ้าฝึกใช้ตัวนี้มาตลอด

    เพราะฉะนั้นแล้ว การใช้ชีวิตเราแล้วก็ให้กลับมาย้อนดูกันสัมมาทิฏฐิไว้ก่อน.."
    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    เช้า 12 เมษาคม 2567

    #สัมมาทิฏฐิ #รุ่งอรุณแห่งธรรม #ปัญญา #ศีล #สมาธิ #อริยมรรคมีองค์8 #พระชยากร #ธรรมอารี

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • "...ในสมัยพุทธกาล ก็มีภิกษุ ท่านมีความเห็นที่ไม่ตรงอยู่ท่านหนึ่ง ชื่อ พระยมกะ ..ยมกภิกษุท่านมีความเห็นที่ไม่ตรง เรียกว่ามีทิฏฐิชั่วแล้วกันเนาะ

    ในพระไตรปิฎกก็ใช้คำว่า 'ทิฏฐิชั่ว' เรียกว่ามีมิจฉาทิฏฐิ

    ท่านบอกว่าท่านรู้ถึงธรรมของพระศาสดาในธรรมที่พระองค์แสดงว่า 'พระอรหันต์ตายแล้วสูญ ตายแล้วย่อมพินาศ ตายแล้วย่อมไม่เกิดอีก' นี่ท่านมีทิฏฐิแบบนี้

    พระอรหันต์ตายแล้ว ท่านคงหายไปเลยเนาะ บางทีก็ดับหายไปเลย พระอรหันต์ตายแล้วก็คงไม่เกิดแล้ว ..มีใครคิดแบบนี้ไหม ?

    ในสมัยพุทธกาล เนื่องจากในสมัยก่อน มีผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิที่อยู่เยอะมากนะ

    พระภิกษุ..พอท่านเห็นว่ามีใครสักคนหนึ่งเกิดมิจฉาทิฏฐิขึ้นมา พระทั้งหมดก็จะรีบเข้ามาช่วยกัน เรียกว่ามาช่วยเหลือกัน ช่วยกันตักเตือนนะ เพราะว่าเส้นทางนี้ ถ้าทิฏฐิเพี้ยนขึ้นมา เห็นผิดขึ้นมา ก็จะคิดผิด พูดผิด ทำผิด ที่เหลือก็จะรวนทั้งหน้ากระดานเลยนะ

    แต่ถ้าทิฏฐิถูกขึ้นมา ก็จะเห็นถูก คิดถูก ทำถูก

    ถ้ามีความเห็นไม่ตรงนะ การปฏิบัติที่เหลือก็จะรวนหมดเลย เพราะเห็นไม่ตรง พอไม่ตรงเป็นเรื่องใหญ่นะ สัมมาทิฏฐิเนี่ย

    ภิกษุท่านเห็นว่ามีคนหนึ่งนะ มองกันก็เหมือนเป็นเพื่อนสหธรรมิกนะ เพื่อนเรามีมิจฉาทิฏฐิขึ้นมา ก็ต้องรีบเข้ามาช่วยเหลือตักเตือนกันเนี่ย

    ก็มีภิกษุกลุ่มใหญ่เข้ามาพูดคุยกับพระยมกะว่าท่าน..เห็นว่าท่านมีความเห็นแบบนี้ มีความเห็นว่าท่านรู้ถึงธรรมที่พระศาสดาแสดงพระอรหันต์ตายแล้วสูญ ย่อมพินาศ ย่อมไม่เกิดอีก ย่อมดับไป ..ดับสูญไป ท่านเห็นอย่างนั้นหรือ ?

    ตอนแรกก็มาพูดคุยทักทายปราศัยกันก่อน แล้วก็ถามกัน

    เห็นอย่างนั้นน่ะ เห็นอย่างนั้น ภิกษุก็เลยบอกว่าถ้าท่านอยากได้กล่าวตู่ก็พระศาสดาเลย พระศาสดาท่านไม่ได้สอนอย่างนี้ ไม่ได้ตรัสแบบนี้

    พระยมกะก็เถียงสุดชีวิต ก็คงอาจจะได้ยินได้ฟังมานะ แต่ทิฏฐิยังไม่ถูก ยังเพี้ยนอยู่ พอทิฏฐิเพี้ยน ที่เหลือเพี้ยนหมด อันนี้เป็นเรื่องใหญ่นะ

    ภิกษุท่านเห็นกัน ท่านเลยแบบว่าเห็นเพื่อนสหธรรมิกมีมิจฉาทิฏฐิ ก็เลยต้องรีบมาเตือนกัน แต่พอเตือนไม่ฟังแล้ว ก็ต้องยกระดับ ก็เลยนึกถึงอัครสาวกเบื้องขวา ผู้ที่เป็นเลิศทางปัญญา ก็นึกถึงพระสารีบุตรนะ

    พระภิกษุก็นึกถึงพระสารีบุตร มีพระสารีบุตรเป็นที่พึ่ง ..เหตุการณ์ก็เกิดที่วัดพระเชตวัน ก็เลยเข้าไปกราบนิมนต์พระสารีบุตร ขอให้มาช่วยอนุเคราะห์พระยมกะภิกษุหน่อย..."

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    ค่ำ 11 เมษายน 2567

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • #ให้ใจได้มีที่พึ่งพิงไว้
    #ให้มีสติอยู่กับสภาพธรรมที่เกิดขึ้นในทุกๆลมหายใจ

    ก็พึ่งระลึกไว้ด้วยใจที่ปล่อยวาง ไม่ได้ทำไปด้วยความที่ว่าจะเค้นจะเอาอะไร

    #ก็เรียนรู้ธรรมชาติตามความเป็นจริงนี่แหละ

    มีลมหายใจสั้นลมหายใจยาวก็ว่าไปตามนั้น
    หายใจยาวแแล้วกายนี้ปรุงเป็นแบบไหน
    หายใจสั้นผลพวงที่เกิดขึ้นจากการหายใจสั้นเป็นแบบไหน ก็รับรู้ได้นะ
    .
    ทีนี้ก็จะค่อยๆถอนความเห็นผิดว่ากายนี้ เป็นตัวตน เป็นบุคคล เป็นเรา เป็นเขา ไปทีละเล็กละน้อย
    .
    ก็จะเห็นว่า ธรรมชาติอันเป็นเหตุ เหตุปัจจัยปรุงลมหายใจมาแบบไหน ผลที่เป็นปลายเหตุเรียกว่ากายเป็นแบบไหน
    .
    ก็จะเห็นเป็นแค่ธรรมชาติอันเป็นเหตุปัจจัย ถ้าเห็นไปตามนี้ก็เพิกถอนความเห็นผิดได้มากมายแล้วล่ะ ก็อานิสงส์ก็มากนะ
    .
    #อยู่กับลมหายใจไว้ก่อน
    มีเรื่องมีราวกลับมารู้ลมหายใจไว้ก็ช่วยได้เยอะ เรียกว่า #ปล่อยใจไม่ให้ไหลไป
    .. ไม่ให้ไหลไปกับกองอกุศลทั้งหลาย

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    เช้า 11 เมษาคม 2567

    #อานาปานสติ #รู้ลมหายใจสั้นยาว #มีสติสัมปชัญญะเป็นเพื่อน #พระชยากร #ธรรมอารี

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • "...โลกจะร้อนไปขนาดไหนก็ตาม วันสุดท้ายต้องมาถึง เนี่ย เราพร้อมไหม ? อนุสัย มีอะไรยังละไม่ได้หรือเปล่า ? อาสวะใดยังไม่สิ้น ?

    เนี่ย มันใช้เวลานะ ใช้เวลาในการค่อย ๆ สร้างความเคยคุ้น

    เวลามันเหลือน้อย เหลือน้อยลงไปในทุก ๆ ที ทุก ๆ ที เราก็จะได้ไม่ประมาทนะ

    ถ้าวันสุดท้ายมาถึง ทำไงล่ะโยม ? อย่างน้อยก็รักษาศีล 5 ไว้ก่อน

    มีศีล 5 ก็อบอุ่นและปลอดภัย ไม่ต้องรอวันสุดท้ายนะ เราก็ตั้งมั่น ..ตั้งมั่นว่าเราจะรักษาศีล 5 ตลอดชีวิต ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะไม่ผิดศีลเลย ..บุญบารมีก็ค่อย ๆ เกิดนะ

    กลิ่นของศีล ก็เป็นกลิ่นที่หอมนะ หอมฟุ้งขจรไป แล้วก็มีความมั่นคงในพระรัตนตรัย ถึงไตรสรณคม มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ ตลอดชีวิตนะ อธิษฐานจิตไว้ ในห้องมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

    เราก็ถือโอกาสในการที่จะได้ประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม

    ไม่ต้องรอวันสุดท้ายมาถึง โลกจะเป็นยังไงก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยนะ

    จบช่วงชีวิตยังไงก็เปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้หรอกนะ เปลี่ยนแปลงใจดีที่สุด เปลี่ยนแปลงจากข้างในดีที่สุดแล้วนะ

    เวลาที่เหลืออยู่นี่แหละ รักษาศีล 5 มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต ตั้งจิตอธิษฐานไว้ มีอานิสงส์มากนะ แล้วก็ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม

    นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่จะค่อย ๆ เดินทางเข้าสู่เส้นทางของพระอริยเจ้าทั้งหลาย จะเริ่มค่อย ๆ เดินทางสู่โสดาปัตติมรรค สัทธานุสารี ธัมมานุสารี ก็ต้องอาศัยพื้นฐานในการมีศีล 5 ที่บริบูรณ์ มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งเป็นสรณะ

    ก็ตั้งจิตอธิษฐานไว้ตลอดชีวิตเลยนะ ตลอดการเดินทางในวัฏสงสาร มีที่พึ่งที่อบอุ่นอยู่ในหัวใจ ก็จะค่อยเดินทางตามรอยพระอริยเจ้าทั้งหลาย..."

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    ค่ำ 10 เมษายน 2567

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • #ปฏิจจสมุปบาท
    #ธรรมอันเป็นเหตุเป็นปัจจัย

    .. ผู้ใดที่เห็นธรรม ก็เรียกว่าเห็นพระองค์เอง
    .. ผู้ใดเห็นตัวพระองค์เอง ก็เรียกว่าเห็นธรรม
    .. ผู้ใดเห็นธรรม ก็เรียกว่าเห็นปฏิจจสมุปบาท
    .. หรือผู้ใดที่เห็นปฏิจจสมุปบาท ก็เรียกว่าเห็นธรรมะที่พระองค์ได้ตรัสสอน

    ซึ่งถ้าเราจะนำมาร้อยเรียงหนึ่งก็ได้เห็นธรรมะก็ได้เห็นปฏิจจสมุปบาท

    .. เมื่อผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาทได้ ก็เรียกว่าเห็นพระองค์เอง

    #ซึ่งพระองค์จริงๆก็เป็นธรรมะที่เรียกว่าปฏิจจสมุปบาทเองก็ได้
    .
    ถ้าเห็นแค่พระวรกายท่านเป็นตัวบุคคลที่เกิดมาประมาณ 2600 ปีล่วงมาแล้วเนี่ยก็เรียกว่ายังเข้าไม่ถึงตัวพระองค์จริงๆ
    .
    แต่ธรรมะที่เรียกว่าปฏิจจสมุปบาทถามว่าอยู่ตรงไหนล่ะ ?

    ก็ไม่ใช่อะไรไกลนะ #ก็อยู่ในกายใจเรา นี่แหละ

    แค่เราพากเพียรเห็นธรรมะอันเป็นเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นในกายในใจนี้ ก็เรียกว่าเห็นพระพุทธองค์ที่ท่านได้ตรัสบอกไว้เลย
    .
    เพราะฉะนั้นแล้ว พระพุทธองค์ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสสอนไว้เนี่ยก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล ก็อยู่ในกายในใจเรานี่แหละ ถ้าเรามีปัญญาซะหน่อย เห็นความจริงทีละเล็กละน้อย ค่อยๆเห็นสภาพอันเป็นเหตุปัจจัยนะเป็นสภาพธรรมที่ปราศจากความเป็นตัวตนเป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นตัวตนเป็นเราเป็นเขาเนี่ย
    .
    สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแค่ภาพเหตุปัจจัยที่เมื่อสิ่งนี้มีสิ่งนี้ก็ย่อมมี เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นสิ่งนี้ก็ย่อมเกิดขึ้น เมื่อสิ่งนี้ดับไปสิ่งนี้ก็ย่อมดับไป และเมื่อสิ่งนี้ไม่มีสิ่งนี้ก็ย่อมไม่มี เรียกว่าเป็นกฎของธรรมชาติที่เป็นเหตุปัจจัยเกิดขึ้นมา มีเพียงเท่านี้นะ
    .
    แต่ว่าด้วยความหลงผิดเป็นทุนเดิมธรรมชาติเหล่านี้ได้กลายเป็นตัวเป็นตนไปซะหมด เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นมาเนี่ยมีใจก็ไปรับรู้เนี่ยสิ่งนั้นก็เรียกว่ากลายเป็นสิ่งที่เรารับรู้ขึ้นมาโดยทันทีไม่ว่าจะเป็นทางตาหูจมูกลิ้นกายใจก็ดีนะ เมื่อมีใจที่หลงผิดทุนเดิมไปรับรู้อยู่แล้วเนี่ยก็เป็นธรรมดาที่ใจเราจะค่อยเข้าไปยึดไปถือไปยึดมั่นถือมั่นในกระบวนการเหล่านี้
    .
    จากตอนแรกที่ถ้าใครเห็นได้ว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นเหตุปัจจัยทางธรรมชาติแห่งทุกข์ก็จะไม่เกิดขึ้นแก่เขาเหล่านั้นขึ้นมาแต่ถ้าใครเห็นผิดไปจากธรรมชาติเหล่านี้เนี่ยเห็นว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวเป็นตนเป็นบุคคลเป็นเราเป็นเขาขึ้นมา สิ่งที่เขาจะได้รับคือความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นมาในใจทีละเล็กละน้อย เมื่อเกิดขึ้นมาจนเคยชิน ทุกข์ก็จะเกิดขึ้นมาได้ง่ายขึ้นง่ายขึ้น เรียกว่าเป็นกระบวนการธรรมชาติ
    .
    ถ้าผู้ใดเห็นอริยสัจและเห็นความจริงขึ้นมาก็ค่อยถอดถอนทิฏฐิอันหลงผิดขึ้นไปทีละเล็กละน้อได้ เมื่อทิฏฐิอันหลงผิดไม่มีที่ตั้งทุกข์ก็ไม่เกิดขึ้นแก่เขา เมื่อนั้นคนเหล่านั้นก็จะเห็น #พระพุทธเจ้าพระองค์จริง ที่เรียกว่า ท่านเป็นกระแสปฏิจจสมุปบาท

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    เช้า 10 เมษาคม 2567

    #เห็นกระแสปฏิจจสมุปบาท #เห็นธรรม #เห็นพระพุทธเจ้า #พระชยากร #ธรรมอารี

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • "Q1 ปฏิบัติแล้วเห็นแสงสว่าง ?

    โยมลืมตามาตอนนี้ก็ได้นะ ลองดูก็ได้นะว่าหายไปแล้วหรือยัง ?

    ถ้าหายแล้วก็แปลว่าไม่ใช่ตัวตนนะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    ต่อให้มีอยู่ โยมลองสังเกตต่อไปก็ได้ว่าเป็นอย่างไรนะ ?

    เพราะว่าสัจธรรม พระองค์ก็ตรัสไว้แล้ว 'สัพเพธัมมาอนัตตา' สรรพสิ่งไม่ใช่ตัวตน
    สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์
    สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นไม่ใช่ตัวตน

    ลืมตามาก็หายหมดแล้วเนาะ หายหมดแล้วนะ ไม่มีอะไรเป็นตัวตน

    ผู้เข้าไปหาย่อมไม่หลุดพ้น ผู้ไม่เข้าไปหาย่อมหลุดพ้น

    บางทีปฏิบัติไปเห็นความวิจิตรพิสดารทั้งหลาย จะมาความสว่างผ่องใสขนาดไหน ก็เห็นเป็นอนัตตาหมดนะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาหมด อย่าไปสำคัญมั่นหมายมาเป็นเราเป็นของเรา

    จะสว่างผ่องใส จะเบิกบานแจ่มใส บริสุทธิ์ขนาดไหน เป็นอนัตตาทั้งหมด มีแต่ความเปลี่ยนแปลงเสื่อมสลายไป ไม่ใช่ตัวตนเลย..."

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    ค่ำ 09 เมษายน 2567

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • "...บางคนอื่นเขานะเขาว่าอันนี้ดีนะอันนี้ดีนะทำแล้วเดี๋ยวจะร่ำรวยมีทรัพย์สินเงินทองมากมายทำแล้วชีวิตจะรุ่งเรืองไม่มีทางที่จะกลับไปสู่

    เพราะเห็นอยู่อย่างเดียวเลย เส้นทางที่ก้าวเดินมาที่ทุกข์หายไป เพราะประพฤติตามอริยมรรคมีองค์ 8 ทั้งหมด ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นเส้นทางดำเนินของพระพุทธเจ้าและพระสาวกทั้งหลาย

    พระองค์ก็ตรัสต่ออีกไปว่า
    'พวกเธอจะกล่าวแต่สิ่งที่พวกเธอรู้เอง เห็นเอง รู้สึกเองเท่านั้น ไม่ใช่หรือ ?'

    ภิกษุก็ตอบว่า
    'เป็นอย่างนั้นพระเจ้าข้า'

    เพราะภิกษุที่ฟังอยู่เป็นพระอริยเจ้าแน่นอนที่กล่าวออกมาแต่ละอย่าง การตอบคำถามแต่ละอย่าง ถ้าผู้ที่ไม่ถึงสัมมาทิฏฐิ ไม่มีทางที่จะตอบออกมาจากใจแบบนี้ได้เลยนะ

    พระองค์ก็ตอบว่า
    'ถูกแล้ว ถูกแล้วนะ พวกเธอทั้งหลายเป็นผู้ที่กระทำ เป็นผู้ที่เรานำไปแล้วด้วยธรรม'

    เป็นสันติกร garlico โอปะนะยิโกปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูหิติ

    ถึงธรรมที่บุคคลก็รู้ได้เฉพาะตนนะ ให้ผลได้ไม่จำกัดกาล เป็นธรรมที่ควรเรียกกันเข้ามาดู เป็นธรรมที่น้อมเข้ามาใส่ตน วิญญูชนก็รู้ได้เฉพาะตน'

    เพราะผู้ที่ประพฤติธรรมก็ย่อมได้รับผลแห่งธรรมนั้น ดำเนินอยู่ในเส้นทางแห่งอริยมรรคมีองค์ 8 จนเกิดสัมมาทิฏฐิ ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ถึงพร้อมด้วยทัศนะ เป็นผู้ที่ถึงพระสัทธรรม เป็นผู้เห็นอยู่ซึ่งพระสัทธรรม เป็นผู้ที่ตกกระแสซึ่งพระนิพพาน

    ก็อาศัยการอบรมศีล สมาธิ ปัญญา เป็นผู้ที่รู้แจ้งอริยสัจขึ้นมา ก็ในเมื่อชีวิตมีแต่ศีล สมาธิ ปัญญา ทุกมิติ ทุกคำพูด ทุกการกระทำ ก็จะมีแต่ศีล สมาธิ ปัญญา ก็จะมีแต่อริยมรรคมีองค์ 8 ..การกล่าวอะไรก็เป็นกล่าวแต่สิ่งที่เข้าถึง ธรรมที่เข้าถึง..."

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    ค่ำ 09 เมษายน 2567

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • "..ผู้ที่ไม่ละจากความเพียร ถ้ายังประกอบความเพียรอยู่เนืองๆ ก็ย่อมที่จะได้เป็นผู้ได้ความสงบในสักวันหนึ่ง
    .
    เปรียบเสมือนคนเหล่าใดที่เขาไม่ละจากความเพียร มีความพากเพียรในการขุดดิน ขุดไปเรื่อยๆ ขุดไปไม่ย่อท้อก็ย่อมที่จะพบแหล่งน้ำได้ฉันนั้นเช่นกัน
    .
    เรื่องราวก็แสดงให้เห็นถึง

    .. ผู้ที่เกียจคร้าน เกียจคร้านไปก็ย่อมที่จะยังประโยชน์อย่างยิ่งที่จะเกิดขึ้นแก่ตนให้ย่อหย่อนลงไป เรียกว่า เสียประโยชน์นั่นเอง

    .. แต่ผู้ที่ใดที่ปรารภความเพียรประกอบความเพียรอยู่เนืองๆ ผลในภายภาคหน้าก็ย่อมที่จะได้รับตามเหตุอันสมควรนะ
    .
    เมื่อได้ฟังเรื่องนี้แล้วเนี่ย การปฏิบัติธรรมเองก็เช่นกัน เราก็น้อมนำมาปฏิบัติให้เกิดขึ้นแก่ใจตัวเองได้ ปฏิบัติไปมีอุปสรรคบ้าง มีความย่อท้อเกิดขึ้นในใจบ้าง

    #ก็อย่าท้อนะให้ทำไปก่อน

    ถ้ามีเหตุอยู่เนี่ย สร้างเหตุอยู่เนืองๆเดี๋ยวผลก็ย่อมปรากฏขึ้น
    .
    แต่ในทางกลับกันถ้าเราขี้เกียจเสียเเล้วนะ เหตุก็ไม่มีนะ เหตุที่จะเป็นผลที่ดีในอนาคตก็ไม่มี อีกทั้งอุปนิสัยเราจะใฝ่ไปในความมักน้อยนะ มักน้อยก็คือขี้เกียจนั่นเอง ไม่ใช่มักน้อยในแบบที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญ มักน้อยคือไม่เอาอะไรเลยนั่นเองนะ
    .
    ผู้ใดที่อยู่แบบนี้ก็จะคุ้นชินไปในฝั่งที่เป็นอกุศลเสียมาก จิตใจมีความเกียจคร้านมีโมหะเข้ามาคุมในจิตใจเนี่ย หนทางก็ประเมินเอาได้เลยนะว่าเป็นไปในทางที่จะไม่ก่อให้เกิดความเจริญแน่"

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    เช้า 09 เมษาคม 2567

    #ปรารภความเพียร #ไม่เกียจคร้าน #วัณณุปถชาดก #พระชยากร #ธรรมอารี

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • "..มีทุกข์ก็ยิ่งต้องปฏิบัติธรรม

    ทุกครั้งที่มีความทุกข์ก็นำทุกข์นั้นมาเรียนรู้นะ เรียนรู้ ..เรียนรู้แล้วก็จะวางใจว่าเมื่อเรียนรู้จบแล้วก็จะไม่ทุกข์เนื่องเดิมอีก จิตจะค่อย ๆ เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ รู้ไปเรื่อย ๆ

    กิเลสก็มีหลายระดับมากมาย บางทีกิเลสละเอียด ..ต่อให้เราเคยเห็นแว๊บ ๆ นะ พวกมานะ อัตตา พวกกันพอใจในรูปฌานอรูปฌานบ้าง พวกสังโยชน์ละเอียด ๆ เนี่ย ..แต่ถ้าจิตยังไม่ได้เรียนรู้ ยังไม่ผ่านกิเลสแบบหยาบ ๆ จะเป็นแค่แว๊บ ๆ แว๊บ ๆ แค่รู้แว๊บ ๆ

    แต่สุดท้ายที่ดันมาบ่อย ๆ จะเป็นกิเลสแบบหยาบ ๆ บางทีพวกกามฉันทะ พวกนิวรณ์แบบนี้นะที่จะดันออกมา พวกกิเลสต่าง ๆ สากายทิฏฐิที่จะดันความเห็นผิดออกมา ในส่วนของสากายทิฏฐิ ราคะ ปฏิฆะ จะดันออกมา ให้เรียนรู้พวกนี้ กิเลสหยาบ ๆ

    พอมีกิเลสเสียดแทงจิตใจ เราก็ต้องยิ่งฝึกยิ่งฝืนนะ อย่าปล่อยใจให้จมไปกับบาปอกุศล จมนานก็บางทีก็รู้เลยว่าอะไรที่ไปจมแล้ว มันก็ก่อความเคยคุ้นนะ

    พอจะพรากออก มันก็ยากเหมือนกันนะ ญาติโยมก็ต้องฝึกต้องฝืนนะ ต้องสู้ ต้องสู้ บางทีจมไปแล้วนี่ดึงกว่าจะขึ้นมาเนี่ย ยาก ..กระแสโลกแรงด้วยนะ

    พระพุทธองค์ก็อุปมาเหมือนบุคคล การที่บุคคลระดับในการที่จมอยู่กับกองทุกข์ การที่ใครสักคนหนึ่งอยู่ ๆ จะกระโดดแล้วก็ข้ามมาจากฝั่งกองทุกข์ในทะเลแห่งวัฏสงสารได้ ก็เหมือนบุคคลตกน้ำ 7 จำพวก..."

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    ค่ำ 08 เมษายน 2567

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.areehttps://www.facebook.com/dhammaaree

  • #ศีลอุโบสถ

    ก็เป็นข้อปฏิบัติเพื่อที่จะเป็นการ #ข่มกิเลส เหมือนกัน กิเลสก็ก็ประกอบไปด้วยราคะบ้าง โทสะบ้าง โมหะบ้าง

    • "ราคะ" อะไรก็ตามที่จิตใจเรารู้สึกว่าอยากจะดึงเข้าหาตัว ก็ไม่ใช่แค่เป็นอารมณ์เท่านั้นนะ เป็นสิ่งของก็ได้แต่

    ถ้าจะมองกันให้ดีจริงๆก็เป็นแค่อารมณ์ภายในใจ เห็นอะไรก็ตามข้าวของเครื่องใช้กับอาหารก็ดีตากระทบปุ๊บเกิดเป็นภาพปรุงขึ้นมาในใจ จริงๆก็มีแค่จิตนะ จิตที่อยากได้อยากมี หรือความอยากเป็นเองก็ตาม สร้างเป็นภพขึ้นมาในใจว่า เมื่อตัวเราจะได้สิ่งๆนี้ ได้รับเป็นชื่อเสียงก็ดีนะ เป็นคำสรรเสริญก็ดี ก็เรียกว่าฟูขึ้นมาในใจ จิตใจมี ใจเป็นใจ มีความรู้สึกอย่างไร ก็ย่อมเป็นอย่างนั้น

    เรียกว่าเป็นอารมณ์ของราคะ

    • ทางด้านที่เป็น "โทสะ" เรียกว่าผลักออก จิตใจอยากจะผลักออกไป ผลักก็เป็นด้านอารมณ์เหมือนกัน ถ้าเรามีราคะมีความโลภขึ้นมา เมื่อไม่ได้ดั่งใจนะสิ่งที่เราตั้งเป้าไว้ เรียกว่าผลักออก มีโทสะเกิดขึ้นมาในจิตใจ

    • อีกด้านหนึ่งก็เป็น "โมหะ" อารมณ์เหมือนเฉยๆแบบงงๆ งงๆคือไม่ได้ความหนักแน่นไปในทางใดทางหนึ่งถ้าคนที่เขาเฉย เฉยแบบอุเบกขาเขาจะตรงกันข้ามนะไม่ได้ใช้เฉยแบบเหม่อลอยพร้อมที่จะลงไปในอารมณ์

    ถ้ามีโมหะเข้าครองครองอารมณ์ก็พร้อมเกิดขึ้นได้ตลอด
    .
    .
    ก็เรียกว่าเป็นอุบายเพื่อการข่มกิเลสเหมือนกันการรักษาศีลอุโบสถ

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    เช้า 08 เมษาคม 2567

    #วันพระ #ศีลอุโบสถ #ข่มกิเลส #ปัญจุโปสถิกชาดก #พระชยากร #ธรรมอารี

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • "..มีตำนานเล่ากันว่ามีเทพธิดาชาลินี เห็นว่าพระอนุรุทธะท่านตามหาผ้าในป่าเพื่อจะนำมาทำเป็นจีวรก็เลยเนรมิตเป็นเป็นผ้าผืนหนึ่งวางไว้ตามริมทางที่พระอนุรุทธะท่านเดินไปพออท่านเดินไปเจอพอดี ก็ได้ถือโอกาสนำผ้านั้นมาทำเป็นจีวร ก็เป็นตำนานที่ชาวเมืองเขาเชื่อกันเขาก็เลยนำผ้าไปวางไว้

    จนวันหนึ่งหมอชีวกโกมารภัจจ์ท่านก็เห็นแล้วว่าภิกษุยากลำบากนะกว่าจะนำผ้ามาเย็บปักเป็นจีวรก็ต้องตามหาผ้าในป่ากัน ก็เลยกราบขอพระบรมราชานุญาตจากพระศาสดา พระองค์ก็ทรงอนุญาตให้ภิกษุรับผ้าได้ จากคฤหัสถ์ได้ หรือว่าหากผ้าจากตามป่าก็ได้

    หมอชีวกก็เลยถือโอกาสเลยนะเพิ่งไปรักษาพระเจ้าจันทปัชโชติมาได้รับผ้าเนื้อดีเลยได้รับผ้าเนื้อประณีตอย่างดีเลยก็ถือโอกาสได้ถวายพระศาสดาตอนนั้นเลย พอถวายเสร็จบารมีก็เต็มพอดีนะฟังเทศน์ฟังธรรมก็ตรัสรู้พระโสดาบันตอนนั้นเลย ก็เป็นเหตุปัจจัยที่เราหมั่นเรียนรู้เรื่องราวในสมัยพุทธกาลที่มาที่ไป ของงานทอดผ้าป่าสามัคคี.."

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    เช้า 07 เมษายน 2567

    #ทอดผ้าป่าสามัคคี #ธรรมอารี #พระวรินทร


    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • #จาคะ
    #การสละออก

    ในเรื่องของการสละออก
    .. สละออกอย่างสูงสุด
    .. อานิสงส์มากที่สุด

    #ก็สละความเห็นผิดออกไปนะว่ากายใจนี้เป็นเราเป็นของเรา

    .. ถ้าสละออกไปได้ การดำเนินชีวิตเรียกว่าจะไม่ทุกข์ขึ้นมาเลย
    เพราะว่า #เหตุแห่งทุกข์ไม่มี

    ซึ่งถ้าจะทำได้ในมุมไหนได้บ้าง ในเบื้องต้นก็แสดงออกตามหน้าที่เรามีหน้าที่มีกิจการงานอะไรต่างๆก็ทำไปตามหน้าที่ ถ้าทำตามหน้าที่แล้วเนี่ยก็เรียกว่ามีกรอบ เหมือนมีข้อวัตรข้อปฏิบัติมา ทางพระก็จะมีข้อวัตรข้อปฏิบัติปฏิบัติอยู่ ว่ามีศีลมีวินัยมากำหนดนะ
    .
    เราก็ดำเนินตามวิถีเท่านั้นแหละ ใจไม่ได้ไปยินดียินร้าย
    .
    แต่ถ้าจิตใจเริ่มยินดียินร้ายมาในให้รู้เลยว่าตอนนี้ใจเราเริ่มเอนเอียงไปฝั่งของความรู้สึกคุ้นชินในความมีความเป็นแล้วล่ะ เมื่อนั้นก็ให้เราดำเนินอยู่ในกรอบวิธีไว้ก่อน ในการปฏิบัติก็ให้รู้ไว้ว่าจะอยากทำก็ตามจะไม่อยากทำก็ตาม ก็ดำเนินนะตามสิ่งหน้าที่ที่เราพึงปฏิบัติไว้..


    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    เช้า 06 เมษาคม 2567

    #จาคะ #การสละออก #ดำเนินในวิถีธรรมชาติ #ดำเนินในวิถีมรรค #พระชยากร #ธรรมอารี

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

  • #ถาม คิดปรามาสพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ ?

    #ตอบ อันนี้เรียกว่าเชื่อว่าเป็นกันเยอะนะ มันก็จะเป็นอกุศลที่ผุดขึ้นมา แต่เราก็ไม่ได้มีเจตนาเนาะ

    เจตนาเป็นตัวกรรม ก็เป็นเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นนะ อาจจะเป็นอกุศลสัญญาที่เกิดขึ้น

    บางทีเราอาจจะไปฟังข่าวหรือว่าเคยได้ยินอะไรไม่ดีเกี่ยวกับพระสงฆ์ หรือว่าได้ยินอะไรลบ ๆ เรื่องลบ ๆ บางทีมันก็ฝังเข้ามา แล้วมันก็ผุดขึ้นมา เกิดขึ้นได้นะ เป็นอกุศล ก็จะเป็นปัจจัยที่ไม่ได้ตั้งใจ ก็ไม่เป็นไร

    พอเกิด ..เราก็รู้เท่าทันนะ มองว่าเป็นเพียงแค่สังคารความปรุงแต่ง มองลงในไตรลักษณ์เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตายนต์

    โยมบังคับได้ไหม ? ไม่ให้พูดขึ้นมา ..บังคับไม่ได้เนาะ ? ก็ไม่ใช่ตัวเราของเรา เป็นเพียงแค่ธรรมชาติหนึ่งนะ

    พอเกิดขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นเพียงแค่ธรรมชาติหนึ่งเท่านั้น เกิดขึ้นและก็ดับไป ใจก็จะได้ไม่ติดข้อง...

    …………………………

    ถ่ายทอดธรรมโดย
    พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน)
    ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
    ค่ำ 05 เมษายน 2567

    ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
    Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
    Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
    YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
    Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
    SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
    LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
    LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
    Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
    TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree