Afleveringen
-
จิตก็เป็นธาตุอันหนึ่ง เป็นวิญญาณธาตุ ก็เกิดดับหมุนเวียนไป จิตดวงใหม่ก็ไม่ใช่ดวงเดิม อย่างพวกคนจำนวนมากก็คิดว่า พวกเรามีจิตวิญญาณอยู่ พอเราตายแล้วจิตใจของเราดวงนี้ ออกจากร่างนี้ไปเข้าร่างใหม่ อันนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ คิดว่าจิตนี่เที่ยงจิตเป็นอมตะ เป็นมิจฉาทิฏฐิ ไม่รู้หรอกว่าจิตเองเกิดดับตลอดเวลา ถ้าเราภาวนายังไม่ละเอียดพอ เราก็เห็นว่าจิตมีดวงเดียว จิตอยู่กับตัวเรา เดี๋ยวก็วิ่งไปที่ตาแล้วก็วิ่งกลับมา วิ่งไปที่หูแล้วก็วิ่งกลับมา วิ่งไปที่จมูก ที่ลิ้น ที่กาย แล้วก็วิ่งกลับมา วิ่งไปคิดแล้วก็วิ่งกลับมา เราคิดว่าจิตมีดวงเดียว อันนี้เพราะสติปัญญาของเรายังไม่แก่กล้าพอ ต้องฝึกอีก ถ้าฝึกแล้วเราจะเห็นเลย จิตเกิดที่ไหนก็ดับที่นั้น จิตนั้นเกิดดับสืบเนื่องกันอย่างรวดเร็ว เกิดที่ตาก็ดับที่ตา เกิดที่หูก็ดับที่หู เกิดที่ใจก็ดับที่ใจ เกิดตรงไหนก็ดับตรงนั้น จิตที่เกิดที่ตากับจิตที่เกิดที่หูก็คนละดวงกัน ทำหน้าที่ได้แตกต่างกัน จิตที่เกิดที่ตาก็ทำหน้าที่เห็นรูป จิตที่เกิดที่หูทำหน้าที่ฟังเสียง เราจะเอาหูไปเห็นรูป มันทำไม่ได้ จิตมันเกิดดับทางโน้นทางนี้ในทวารทั้ง 6 หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช บ้านจิตสบาย 15 ธันวาคม 2567
-
Zijn er afleveringen die ontbreken?
-
ครูบาอาจารย์ทำเหรียญทำอะไรแจก ก็เพื่อให้กำลังใจเราให้ภาวนา อย่าไปหลงงมงาย อยากได้วัตถุมงคลหลวงพ่อ ก็ไปหารูปมาสักรูปหนึ่ง หามาเอง แล้วก็ทุกวันตั้งสัจจะว่าจะภาวนา จะรักษาศีล แค่นั้นวิเศษแล้ว สิ่งที่จะคุ้มครองเราได้ ไม่ใช่เหรียญ ไม่ใช่วัตถุมงคล วัตถุมงคลไม่อยู่ในมงคล 38 ประการ ไม่มีหรอก สิ่งที่จะรักษาคุ้มครองเราคือธรรมะ ฉะนั้นรักษาศีลไว้ ปฏิบัติธรรมไว้ สิ่งนี้จะคุ้มครองเรา คุ้มครองจากอะไร จากความชั่วร้ายทั้งหลาย คุ้มครองจากความตกต่ำของจิตวิญญาณ แล้วจะพาเราไปสู่สันติสุข สันติก็คือพระนิพพาน พระนิพพานนั้นถ้าเราเข้าถึงก็มีแต่ความสุข เป็นบรมสุขที่แท้จริง หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 14 ธันวาคม 2567
-
ทำกรรมฐานอย่างหนึ่ง แล้วคอยรู้ทันความปรุงแต่งของจิต อย่างทำกรรมฐานไป หายใจไป พุทโธไป จิตหนีไปคิด เขาปรุงแต่งอะไร ปรุงแต่งอุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน รู้ว่าจิตฟุ้งซ่าน ไม่ต้องแก้ จิตฟุ้งซ่านรู้ว่าฟุ้งซ่าน อีกคนหนึ่ง ภาวนาหายใจไป พุทโธไป จิตหนีไปคิด ฟุ้งซ่าน แล้วรำคาญใจ ไม่ชอบเลย ทำไมมันฟุ้งนัก อยากให้มันหยุดคิด มันยังคิดอีก โมโหแล้ว มีกุกกุจจะ รำคาญใจ ให้รู้ว่ารำคาญ ไม่ต้องไปห้ามมัน รู้อย่างที่มันเป็น อย่าไปแต่งจิตให้มันดี ให้มันสุข ให้มันสงบ จิตเป็นอย่างไร รู้ว่าเป็นอย่างนั้น พวกปรุงแต่งจิตไม่มีอะไรมากหรอก ปรุงแต่งให้มันดี ให้มันสุข ให้มันสงบ อย่าไปแต่งมัน รู้อย่างที่มันเป็น แล้วเราจะเห็นจิตมันตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 7 ธันวาคม 2567
- Laat meer zien