Afleveringen
-
หนังสือ The Lifestyle Investor: The 10 Commandments of Cash Flow Investing for Passive Income and Financial Freedom ของ Justin Donald
- เมื่อนักลงทุนเน้นกระแสเงินสด แล้วกระแสเงินสดมันสำคัญไฉน
- หากว่าเราหลงลืมปัญหาของกระแสเงินสด แล้วไม่เคยรู้จักกระแสเงินสดอิสระนี่ย่อมเป็นปัญหา
- การลงทุนไหนที่สามารถสร้างกระแสเงินสดระหว่างทางที่ถือครองได้ นั่นคือการลงทุนสไตล์เรา
- ไม่ต้องเคร่งเครียดกับมูลค่าของสินทรัพย์ แต่จงเพ่งพินิจเกี่ยวกับสภาพคล่องของสินทรัพย์เราจะดีกว่า
- ปัญหาของนักลงทุนส่วนใหญ่จะโฟกัสไปยังที่ สินทรัพย์ที่เสี่ยง เพราะเชื่อว่ามันให้ผลตอบแทนสูงกว่าไม่เสี่ยง
-
มีคนมาปรึกษาว่า อยากสอบถามค่ะว่า เราสามารถอยู่กับผู้ชายที่รักเรา แต่ไม่สามารถช่วยเหลือเราได้แม้แต่ค่าอาหารได้ไหมคะ คือผู้ชายเป็นคนขยันนะคะ แต่ด้วยฐานะทางบ้าน หน้าที่การงานก็เป็นลูกจ้างรายวัน ส่วนวันหยุดก็ต้องไปขายของตลาดนัด เรารับรู้ได้นะคะว่าเขารักเรามาก แต่มันดูไม่มีความมั่นคงในชีวิตเลยค่ะ รู้สึกว่าคบไปแล้วอนาคตเราต้องเหนื่อยมาก ๆ เราคิดแบบนี้ดูเห็นแก่ตัวไปไหมคะ แล้วคำพูดที่ว่ารักกันอย่างเดียวมันพอจริง ๆ ไหม หรือว่าเรารักกัน เราต้องยอมลำบากด้วยกัน หรือว่าเรารักเขาเราก็ต้องดูแลเขาอีก คือส่วนตัวดูแลตัวเองได้นะคะ แต่ก็อยากได้คนที่ดูแลเราได้เหมือนกัน พอเราต้องช่วยดูแลเขาตลอด มันมีความรู้สึกที่แย่ค่ะ หนูควรไปต่อไหมคะ หรือว่าความคิดหนูแบบนี้มันเป็นยังไงบ้าง
- ความรักเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งแต่ปัญหาหลัก ๆ ไม่ได้อยู่ที่ความรัก
- ความสัมพันธ์เปรียบเสมือนต้นไม้ มันอยู่ที่ว่าเราต้องการใส่อะไรมันเข้าไปให้มันเติบโต
- แต่ยังไงแล้วความรักและความสัมพันธ์ก็ต้องควบคู่ไปพร้อมกัน ไม่ควรขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง
- ปัญหาทั้งหมดจะยังอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเห็นแก่ตัวไหม หรือสิ่งที่เรารู้สึกมันเป็นสิ่งที่แย่รึเปล่า นั่นเป็นคำตอบ
- ทุกสิ่งที่เรารู้สึกเราต้องเคารพมัน อย่างน้อยมันก็คือสิ่งที่เรารู้สึก บางทีมันไม่มีคำว่าแปลกว่าเพราะอะไรถึงรู้สึกแบบนี้
-
Zijn er afleveringen die ontbreken?
-
ข้อความโพสต์จาก Ray Dalio ได้เขียนข้อความไว้ว่า "วิธีที่เราจะใช้วัดผลลัพธ์ นั่นก็คือเครื่องจักรที่สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่มองเห็นมันได้ คุณจึงสามารถคาดหวังได้ว่า คุณจะต้องจดบันทึกทุกการเบี่ยงเบนเสมอ"
- การรับรู้ของปัญหาจะต้องถูกเทียบเคียงกับผลลัพธ์ แล้วมันพอจะเห็นว่าเป้าหมายนั้นเป็นอย่างไร
- พอเรารู้แล้วว่าปัญหาคืออะไร เราจะมองภาพรวมออก แล้วค่อย ๆ แก้ไปทีละจุดเพื่อไขคดีของปัญหานั้น
- จุดหักเห เบี่ยงเบนไปของปัญหา มันคือเงื่อนงำที่เราต้องพินิจพิจารณาอยู่เสมอ ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด
- วิธีมองภาพกว้าง มันจะช่วยลดจุดบอดลงได้ เพราะบางคนมองไปข้างหน้าเท่าที่เห็น แต่จริง ๆ มันมีอะไรมากกว่าที่เห็น
- รับรู้ว่าทุกการกระทำย่อมส่งผลต่อสิ่ง ๆ หนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตระหนักรู้ถึงเป้าหมายให้ได้ แล้วทุกอย่างจะคลี่คลายไปเอง
-
หนังสือ Money In One Lesson ของ Gavin Jackson
- ถ้าการเรียนรู้เรื่องเงินสามารถจบได้ภายในบทเรียนเดียว มันจะเป็นอย่างไร
- วิกฤตการเงิน อาจจะไม่ได้มีที่มาจากเงิน แต่มาจากการเปลี่ยนแปลงระบบภายใน
- ทำไมเราถึงต้องมีการลดใช้เงินสด แล้วเปลี่ยนเป็นการจ่ายผ่านบัตรและผ่านมือถือแทน
- ปัจจุบันนี้วิชาเศรษฐศาสตร์ อาจจะไม่ได้มีความหมายอะไรสักเท่าไหร่ เพราะมันมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นมากมาย
- ถ้าเราอยากรู้ว่าเงินควรจะใช้ไปกับอะไรบ้าง หรือว่าอดออมที่ใดบ้าง มันคือสิ่งที่เราต้องศึกษาเท่านั้นเลย
-
มีคนมาปรึกษาว่า เราต้องทำยังไงดีคะ ตอนนี้แต่งงานกับแฟน แต่เวลาแฟนเราเมาเขาชอบคิดแต่เรื่องอดีต ซึ่งเรื่องราวมันก็ผ่านมานานนับ 10 ปีได้แล้ว คือตัวแฟนเรา เขาเองมีปัญหากับรุ่นพี่แถมยังโดนเอาปืนจี้หัว แต่แฟนก็ไม่ได้กลัว เพราะรู้สึกว่าไม่ได้ทำอะไรผิด สิ่งที่แฟนยังคงรู้สึกถึงวันนี้คือ รุ่นพี่ที่สนิทสนมกัน รักและไว้ใจขนาดนี้ทำไมถึงหักหลังกันได้ รอบตัวแฟนก็มีแต่คนจะมาเอารัดเอาเปรียบ ส่วนน้อยมากที่จะจริงใจ แบบเวลาแฟนมีอะไรดี ๆ ก็จะมีคนเข้ามาหา พอไม่มีอะไรก็ไม่มีใครเห็นหัว จู่ ๆ เรื่องนี้ก็หนักขึ้น กลายเป็นแฟนนั่งร้องไห้ ตอนเขากินเหล้า แล้วพูดคนเดียวว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่โกหกเราว่าขอกินยาแก้ปวดหน่อย เพราะรู้สึกไม่ค่อยสบาย แต่เราดูออกว่าเขาคิดและรู้สึกอะไรอยู่ ซึ่งเราเองก็อธิบายให้แฟนฟังบ่อยครั้งว่าเรื่องราวมันนานมากแล้ว ให้ปล่อยวางอยู่กับปัจจุบันบ้าง เขาก็ยิ่งด่าว่าเราว่าเราไม่เข้าใจเขา เราควรจะจัดการเรื่องแบบนี้ยังไงดี ต้องแก้จุดไหนบ้างคะ และก็น่าจะมีอีกหลายเรื่องที่แฟนไม่ได้เล่าให้เราฟัง
- คนบางคนจมอยู่กับอดีตที่ขมขื่น แต่กลับหลงลืมปัจจุบันที่สุกสกาว
- แฟนที่ดีก็คือ แฟนที่คอยเป็นห่วง ถามไถ่และดูแลสารทุกข์สุกดิบ
- แต่เพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง เขาคือคนนอกอย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่ในชีวิตไปตลอดชีวิต
- ถ้าเราใส่ใจคนที่เขาจะอยู่กับเราแล้วมองเห็นว่า เราควรให้ค่ากับสิ่งใด สิ่งนั้นย่อมเป็นประโยชน์มากกว่า
- บางคนอยากได้การยอมรับจากบางสถานะเช่น เพื่อน แฟน พ่อแม่ หรือลูก ทั้งหมดทั้งมวลมิอาจกำหนดได้เลย
-
ข้อความโพสต์จาก James Clear ได้เขียนข้อความไว้ว่า "สัญญาณหนึ่งของการที่เรายังอ่านหนังสือไม่มากพอ นั่นก็คือเราเห็นด้วยกับทุกสิ่งในหนังสือเล่มนั้น เริ่มแรกเลยมันจะทำให้ความคิดของคุณไม่คงที่จากเหตุผลบางชุด แล้วหลังจากนั้นคุณจะค่อย ๆ อ่านหนังสือเพิ่มขึ้น คุณก็จะพบว่าทุกข้อของเหตุผลนั้น ๆ ย่อมมีขีดจำกัดในแต่ละอรรถ"
- ปัญหาของการเห็นด้วยกับทุกสิ่ง ย่อมเป็นสิ่งที่ส่งผลเสียมากกว่า
- สงสัยทุกสิ่งกับเชื่อทุกสิ่งนั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ่งเชิง ถ้าให้เลือกก็ควรจะเป็นสงสัยให้มาก
- ข้อมูลที่มากพอมันจะทำให้เรารับรู้ว่า ความบิดเบือน ความอคติ และความไม่เห็นพ้องเป็นสิ่งจำเป็น
- คนที่รู้จริงกับรู้ไม่จริง จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราแยกออกได้จากข้อมูลที่มี ยิ่งมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก การตัดสินใจจะดีเยี่ยมตาม
- เหตุผลเป็นข้อมูลหนึ่งที่มนุษย์ได้เรียนรู้ แตกต่างจากเหตุที่นำมาซึ่งผล เพราะนั่นคือสิ่งที่จะหักล้างไม่ได้ในขั้นตอนสุดท้าย
-
หนังสือ Thinking in Systems: A Primer ของ Donella H. Meadows
- การคิดแบบเป็นระบบนั้นทำได้อย่างไร สรุปมันคือระบบของสมองหรือระบบของเรา
- เมื่อสมองสร้างสิ่ง ๆ หนึ่งที่เรียกว่าชุดความคิด แต่ละชุดความคิดจะไม่ได้เดินตามกรอบที่ควรจะเป็น
- กับดักของความคิดก็คือ ความคิดที่เรามักจะเชื่อว่ามันเป็นระบบ แต่จริง ๆ มันคือระบบใหม่ที่เราไม่เคยตั้งค่ามัน
- สิ่งที่เรารับรู้ทั้งหมด ก็ย่อมเป็นเพียงแค่ชุดความคิดหนึ่งเท่านั้น เช่น เงินมีค่า หรือความสุขคือสิ่งที่เราต้องการ
- มูลค่าของความคิดจึงเป็นการตีค่าของภาวะมวลรวมที่เราประสบพบเจอ ไม่ใช่ปัญหาที่แก้กันได้ง่ายดาย
-
มีคนมาปรึกษาว่า ขอวิธีแก้ปัญหาคุณแม่ทำอาหารออกจะพิสดารกับนิสัยที่ขี้เสียดายของหน่อยค่ะ เราเข้าใจว่าบางแง่มุม มันน่าเสียดายเงินแต่บางอย่างมันออกโหดไปหน่อย ทุกคนก็ห้ามแม่ทำอาหารตลอดแต่ก็ไม่เคยห้ามเขาได้เลย จนเรารู้สึกว่ามันสุดโต่งจนน่ากลัว บางอย่างมันเกินจะฝืนกิน อย่างเช่น ทำน้ำมันหมูเจียว แต่แค่เทน้ำมันฝาเขียว แล้วใส่แคบหมูลงไปแช่กับข้าวสวยที่กินเหลือ แต่ถ้าเป็นน้ำก็จะเทลงหม้อข้าวแล้วนึ่งไปกับข้าวเลย ล่าสุดทอดไข่เจียวแล้วน้ำมันเหลือ ก็เอาข้าวลงไปผัดกับน้ำมัน บอกว่าจะได้อุ่นข้าวไปในตัว บ้านเราเลยท้องเสียกันบ่อยมาก เวลาพูดอะไรหรือบอกว่ามันกินไม่ได้นะ แม่ก็แค่ยิ้ม ๆ แล้วเดินหนี และบางทีเขาก็ชอบพูดว่า เสียใจนะทำกับข้าวให้แล้วไม่มีใครกินเลย เราเลยอยากรู้ว่ามีวิธียังไงคุยกับแม่ดีคะ
- ลองเปิดใจคุยกับแม่จริง ๆ จัง ๆ ว่าอาหารที่แม่ทำมันกินไม่ได้จริง ๆ แล้วรอดูการตอบสนอง
- ถ้าคุยแล้ว แจ้งให้ทราบแล้ว ทำทุกวิถีทางแล้วก็ให้เริ่มแก้ที่ตัวเราเป็นหลักเลย
- ไม่ต้องสนใจความรู้สึกแม่มากนัก คนเราจะกินอะไรก็ต้องอิ่มท้อง สบายท้อง มิใช่เสียดายของแล้วจึงกิน
- ปัญหาของชีวิตตอนนี้น่าจะเป็น อยากเอาใจแม่ด้วยการทำตามสิ่งที่แม่บอก แต่บางครั้งมันก็ไม่ควรทำตาม
- สุขภาพร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าเงินทอง คนโบราณมักเปรียบเทียบว่าเงินทองเป็นของนอกกาย ข้าวปลาอาหารนี่สิของจริง
-
ข้อความโพสต์จาก Simon Sinek ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ความสัมพันธ์นั้นคล้ายกับเข็มขัดนิรภัย ถ้ามันไม่เข้ากันมันจะไม่มีวันรู้สึกปลอดภัย"
- การเข้ากันได้ ต้องรวมถึงความรู้สึกมวลรวม และนิสัยที่ไปในทิศทางเดียวกัน
- มันจะมีคำถามเยอะมากว่า ถ้านิสัยแตกต่าง วิถีชีวิตแตกต่าง เราจะยังคบกันไปต่อได้ไหม
- ซึ่งปัญหาทั้งหมดมันอยู่ที่ความสัมพันธ์ ไม่ได้อยู่ที่ความแตกต่างทั้งหมด มันอยู่ที่เรารักกันจริงรึเปล่า
- ความรู้สึกปลอดภัยมันจึงเกิดขึ้นได้ยากอย่างยิ่ง เพราะในความเป็นจริงจะมีสักกี่คนที่จะเข้ากันจริง
- ทั้งนี้ เคารพกัน เชื่อใจกัน และเข้าใจกัน 3 คาถานี้จะช่วยให้ความสัมพันธ์นั้นรอดพ้นปลอดภัยได้เสมอ
-
หนังสือ Naked Money: A Revealing Look at Our Financial System ของ Charles Wheelan
- ปลดเปลื้องเรื่องการเงิน ก็คือการถอดความของระบบการเงินว่าเป็นอย่างไร
- เงินคือกระดาษ มันไม่ได้มีค่าอะไรเท่าไหร่ ซึ่งมันอยู่ที่คนนั้นให้ค่ามันมากกว่า
- เงินเฟ้อทำให้กระดาษที่เรียกว่าเงินนั้นสูญมูลค่าไป จนกลายเป็นกระดาษดังเดิม
- อยากรวยต้องทำไง ก็ต้องเปลี่ยนกระดาษให้มันสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ เช่น ลงทุน หรือผลิตอะไรสักอย่าง
- ประเทศที่ร่ำรวยมันต้องมีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง และการที่เรายากจนก็ย่อมมีเหตุผลอยู่เช่นกัน
-
มีคนมาปรึกษาว่า เพื่อนมาชวนทำงานที่ใหม่ ตอนนี้เราไม่รู้ว่าเราตัดสินใจระหว่างเลือกทำงานที่ปัจจุบัน หรืองานใหม่ดี ก็คืองานปัจจุบันมีเงินเดือน 12,000 บาท ไม่มีโบนัส เดือนนึงทำงาน 15-20 วันเท่านั้น ทำตกวันละ 8 ชั่วโมง เป็นงานสบายค่ะ งานดีเพื่อนก็ดี เราทำงานที่นี่มา 10 ปีแล้วค่ะ ส่วนงานใหม่ก็คิดอยากจะไปที่นั่นอยู่บ้าง คิดเป็นสัปดาห์ละ 9,000 บาท มีโบนัสปีละ 2 ครั้ง เข้างานตั้งแต่ 7.00-22.00 ไม่มีวันหยุดทำงานทุกวัน ที่เราลังเลเพราะเราจะอายุ 35 แล้วใจนึงก็ไม่อยากเริ่มต้นใหม่ค่ะ เราอยากขยับรายได้ให้มันมากขึ้นเฉย ๆ มันเลยตัดสินใจได้ว่าทำงานที่เดิมดีที่สุด เพราะเราอายุเยอะแล้ว แบบนี้คิดถูกไหมคะ
- ไม่มีใครจะตอบคำถามของชีวิตเราเอง ได้ดีไปกว่าตัวเราเอง
- ให้เอาคำถามที่ถามลองถามใจตัวเองดูจริง ๆ ว่า 10 ปีที่ทำงานที่นี่ มันถึงจุดอิ่มตัวแล้วหรือยัง
- มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตเดียว ที่มีศักยภาพเหนือความคาดหมายกว่าที่ตัวเองคิด ลองดูว่าเราพอใจจริง ๆ ใช่ไหม
- ความสุขของชีวิต จะเนื่องด้วยจากการรู้จักตัวเองล้วน ๆ ไม่มีอะไรมาผสมเลย เราเป็นพวกเย็นหรือพวกร้อนกันแน่
- ทั้งนี้ คำถามที่อันตรายที่สุดก็คือ สิ่งที่เราตัดสินใจลงไป มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดรึเปล่า เพราะไม่มีใครรู้นอกเสียจากผลลัพธ์นั้นได้สัมฤทธิ์ผลไปแล้ว
-
ข้อความโพสต์จาก James Clear ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในชีวิต ที่ไม่เคยสอนในโรงเรียน นั่นก็คือการเลือกสรรสิ่งที่เราควรให้ความสนใจ หลังจากจบการศึกษามา นักวิชาการมักจะถูกเปรียบเทียบ กับคนที่กลาง ๆ ว่ามักจะเป็นคนที่ลงทุนในเวลาได้ดีเยี่ยมกว่า"
- คนกลาง ๆ ในที่นี้คือคนที่พยายามลงทุนกับเวลาอย่างพอเหมาะพอควร ไม่มากไปหรือน้อยไป
- แล้วคนที่สุดโต่งมักจะแพ้คนกลาง ๆ อยู่บ่อยครั้งในช่วงเวลาหนึ่ง เพียงเพราะคนที่เอียงในช่วงเริ่มต้นมักจะเอียงต่อไป
- โฟกัสเป็นช่วงหลังจากที่เราได้เรียนรู้จากหลาย ๆ สิ่ง ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ ไปโฟกัสในสิ่งหนึ่งโดยการขาดประสบการณ์
- ชีวิตคือการเรียนรู้ ถ้าเราไม่รู้ว่าควรจะโฟกัสกับเรื่องอะไรก็อย่าเพิ่งรีบไปโฟกัส ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นปัญหา
- นักวิชาการก็คือคนที่คงแก่เรียน ส่วนใหญ่แล้วจะรู้เฉพาะเรื่อง หรือสิ่งที่ตัวเองสนใจเท่านั้น คนกลาง ๆ จะรู้ได้กว้างกว่านั่นเอง
-
หนังสือ The Art of Public Speaking ของ Dale Carnegie
- ศิลปะของการพูดในที่สาธารณะ เป็นสิ่งที่เป็นโจทย์ยากสำหรับทุกคน
- การฝึกฝนคือคำตอบ และการที่เราต้องนึกถึงผู้ฟังว่า เขาจะได้รับอะไรจากเรื่องเล่าของเรา
- เมื่อเราไม่ได้สนใจถึงความยอดเยี่ยม การกระทำของเราจะยอดเยี่ยมไปโดยปริยาย
- หากว่าเตรียมตัวแล้ว เราจะลดความประหม่าในการพูด แถมเรายังดูมีเสน่ห์พร้อมกันไปด้วย
- ความเป็นของแท้ หรือเนื้อแท้ จำเป็นจะต้องจริงใจต่อผู้ฟังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นคือการแสดงออกที่ดีที่สุด
-
มีคนมาปรึกษาว่า สวัสดีค่ะ อยากจะขอคำปรึกษาค่ะ คือตอนนี้หนูเพิ่งอายุ 20 ต้น ๆ กำลังเรียนอยู่ แล้วตอนนี้มีแฟนที่กำลังคบหากันได้สักพักค่ะ พื้นฐานเขาเป็นคนนิสัยดี แต่ใจร้อน เป็นคนเงียบ เวลามีอะไรจะไม่พูดและคิดมากค่ะ เราทั้งคู่คบกันแบบที่ผู้ใหญ่ทางบ้านรู้จักกันและเอ็นดูแฟนมาก ๆ ที่ผ่านมาหนูกับแฟนไม่ค่อยทะเลาะกัน แต่อยู่ดี ๆ เขาก็เริ่มมีอารมณ์ร้อนใส่หนูทั้ง ๆ ที่บางครั้งหนูถามแค่ว่าทำอะไร กินข้าวยัง อยู่กับใคร เขาก็จะตอบแบบใส่อารมณ์ตลอด จนหนูปล่อยให้เขาอยู่กับตัวเองด้วยเรื่องเรียนพอหนูมีเวลาว่างก็เลยมีติดต่อไปหาเขา แต่เขาก็ยังเป็นเหมือนเดิม ตอนแรกหนูนึกว่าอาจจะเพราะชอบไปบ่นให้เขาฟัง แต่พอคิดไปคิดมาก็คิดไม่ออก หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ส่งรูปมาบอกว่าเขาคิดสั้น ซึ่งหนูก็งงว่าทำไมมันไปไกลขนาดนี้ หนูก็เลยทำอะไรไม่ได้นอกจากโทรหา จนมาถึงตอนนี้หนูก็เสียใจแล้วก็ร้องไห้มาตลอด เขาก็รู้แต่ไม่สนใจ เขาก็บอกกับหนูว่าที่เขาชอบใส่อารมณ์เพราะไม่รู้จะทำแบบนี้กับใคร เลยมาลงที่หนู ตอนนี้หนูเลยคิดจะตัดใจจากเขาค่ะ แต่หนูใช้วิธีไหนในการบอกลาเขาดี หนูกลัวเขาจะคิดสั้นเพราะหนู เนื่องจากเขาเป็นคนที่คิดมาก เขาบอกว่าเขารักหนูมาก แต่หนูก็รักตัวเองมากพอที่จะไม่กลับไปร้องไห้อีก หนูควรทำใจยังไงดีคะ เวลากลับบ้านมักจะเห็นภาพที่เขาคุยกับพ่อแม่หนู แล้วก็เฮฮากันปกติ มันทำให้หนูตัดใจลำบากมากเลยค่ะ
- อารมณ์ส่วนตัว ไม่ควรเกี่ยวเนื่องกับผู้คนรอบข้างจนเกินพอดี
- ถ้ามีเหตุการณ์ที่คนรู้จักเรา เพื่อน หรือแฟน รวมไปถึงคนในครอบครัวที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ต้องนำไปพิจารณา
- ปัญหาหลัก ๆ ก็คือแฟนเราเห็นเราเป็นที่ระบายอารมณ์ส่วนตัว ซึ่งมันอยู่ที่เราว่าเราจะรับมืออย่างไร
- ต้องถามตัวเราเองจริง ๆ ว่า เราคาดหวังสิ่งใดในความสัมพันธ์ในครั้งนี้ มันอยู่ที่ตัวเราทั้งหมดเลย
- ความสุขของคนรัก อาจจะไม่ได้อยู่ที่ฐานะทางการเงิน ความฉลาดของการแก้ปัญหา แต่มันอาจจะอยู่ที่วิถีทางของชีวิต
-
ข้อความโพสต์จาก James Clear ได้เขียนข้อความไว้ว่า "บางทีการที่เรายืนหยัดก็ถือว่าเป็นประโยชน์อยู่เหมือนกัน มันทำให้ชีวิตนั้นเปลี่ยนแปลงโดยที่เราไม่ต้องทำอะไร แต่บางทีเราก็ได้ประโยชน์จากการที่เรารุกราน เพื่อที่เราจะได้ดัดแปลงโลกใบนี้ตามใจชอบบ้าง แล้วคุณล่ะตอนนี้เป็นคนที่ยืนหยัดหรือรุกราน"
- วิถีชีวิตเราจะกำหนดอัตลักษณ์ตัวตนของเราได้อย่างดีที่สุด
- เลือกการใช้ชีวิต ว่าเราต้องการให้ชีวิตไปยังทิศทางใดบ้าง
- ยืนหยัดคือ การรอคอยบ้าง ฝึกปรือตนเองระหว่างรอที่จะรุกราน
- รุกรานคือ การกระทำเพื่อให้ชีวิตได้ขยับเขยื้อนไปข้างหน้าอย่างสมดุล
- ความสุขของชีวิตจะเนื่องด้วยการเข้าใจสิ่งที่เป็นไป ปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับธรรมชาติจะดีที่สุด
-
หนังสือ The Psychology of Selling: Increase Your Sales Faster and Easier Than You Ever Thought Possible ของ Brian Tracy
- จิตวิทยาการขาย ก็คือการที่เรารู้ว่าเราจะขายอะไร แล้วผู้รับเราจะได้อะไรกลับไป
- สิ่งที่เราปรารถนา ส่วนใหญ่แล้วก็จะมาจากสิ่งที่เรามอบให้ไป มันคือให้อะไรก็ได้อย่างนั้น
- ถ้าปราศจากความเป็นกัลยาณมิตร ก็ไม่สามารถขายของอย่างยั่งยืนได้เลย
- คาถาที่ต้องท่องตลอดเวลาที่เราจะขายของก็คือ จริงใจ ซื่อสัตย์ และเอาใจเขามาใส่ใจเรา
- ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นึกถึงคนที่ได้รับเอาไว้ให้มากที่สุด ยิ่งนึกถึงผู้รับเราย่อมมีความเบิกบานใจ
-
มีคนมาปรึกษาว่า หลานสาวที่รับมาเลี้ยง อายุ 14 ปี พ่อแม่เขาไม่สามารถดูแลได้ในตอนนี้ แม่กับเราจึงรับหลานมาดูแล และออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมถึงค่าเทอม รวมไปถึงเรากับแม่ก็ไม่ได้คุยกับพ่อแม่หลานมานานมากเกือบปีได้ แล้วตอนนี้หลานอยู่กับแม่เราสองคนที่ต่างจังหวัด เราเพิ่งเจอในเฟซบุ๊กหลานว่ามีแฟนแล้ว อายุมากกว่าประมาณ 7-8 ปี เราเลยรู้สึกไม่สบายใจเนื่องจากผู้ชายเรียนไม่จบ ยังไม่มีเงินเป็นหลักเป็นแหล่ง แล้วเขาชอบแชร์รูปคู่รักที่มันดูไม่ค่อยเหมาะสม แล้วก็เหมือนชอบมาบอกรักผ่านโซเชียล แถมหลานก็ตอบกลับไปด้วย คือจริง ๆ ตัวเราเองก็เปิดใจถ้าเขาจะมีแฟน แต่เราดูว่ามันไม่ค่อยเหมาะสม ในมุมเราเขาก็ยังเด็กอยู่อายุแค่ 14 ปี เราก็เปิดใจคุยกับหลาน เขาก็ไม่ยอมรับ บอกแค่คุยกันเฉย ๆ แต่เราก็แอบเห็นว่าเขาไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เราเป็นห่วงมากค่ะ อยากรู้ว่าจะมีวิธีคุยหรือจัดการเรื่องนี้ยังไงดีคะ อยากขอความเห็นและขอคำปรึกษาค่ะ ควรพูดตรง ๆ ไปเลยดีหรือ อ้อม ๆ ดีกว่ากันคะ
- บางทีเราก็คิดว่าสิ่งนี้เป็นของเรา หรือเป็นฐานะที่เราต้องดูแล แต่มันอาจจะไม่ใช่แบบนั้น
- ไม่มีสิ่งใดเป็นของใคร หน้าที่ของคนเลี้ยงดู ก็คือสั่งสอนให้ได้มากที่สุด คอยเป็นกระบะทรายเท่านั้น
- แต่ความเป็นจริงของความรักก็คือ มันเป็นทั้งเหตุปัจจัย และเป็นเรื่องของจังหวะล้วน ๆ ไม่สามารถห้ามได้
- ลองสังเกตนิสัยคนของเราตลอดเวลา รู้จักตัวเองว่าเป็นคนนิสัยยังไง แล้วคนที่เราดูแลเขานิสัยเป็นอย่างไรด้วย
- ทั้งนี้ ไม่มีคำว่าผิดหรือถูกในการเลี้ยงดูทั้งหมด เราจึงต้องปฏิบัติตามบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย เขาแรงเราต้องเบาลง
-
ข้อความโพสต์จาก Ray Dalio ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ความผิดพลาดอย่างสาธารณะนั่นคือ การยอมรับว่าทางแก้ไขที่ดีที่สุดเกิดขึ้นเมื่อเรายอมรับว่าเรายังไม่ดีพอ"
- ถ้าเราคิดหาทางออกของปัญหาได้ไม่ดีเยี่ยม ให้คิดหนักขึ้น หรือคิดไปเลยว่าสิ่งที่ไม่ดีน่าจะดีที่สุดแล้ว
- ปัญหาของการแก้ปัญหาก็คือ เราไม่ค่อยรู้หรอกว่า ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ตรงไหน การแก้ไขได้จริงจึงเป็นเรื่องยาก
- ความสุขของการแก้ไขปัญหาของชีวิต จะเนื่องด้วยการที่เราหาทางออกอยู่เสมอ ไม่เพิกเฉยต่อชีวิต
- บางครั้งการมองโลกในแง่ดีบ้าง ก็ช่วยทำให้ชีวิตนั้นไปต่อได้มากมายมหาศาล มันจึงมาจากต้นกำเนิดคือความคิด
- ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่อาจจะมองโลกในแง่ร้าย เช่น โลกนี้กลั่นแกล้ง หรือเราไม่มีทางเก่งไปมากกว่านี้ นั่นก็กลายมาเป็นคำตอบ
-
หนังสือ The Universal Principles of Successful Trading: Essential Knowledge for All Traders in All Markets ของ Brent Penfold
- การเทรดที่ดีที่สุดไม่มีอยู่จริง และมันจึงไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวว่าระบบไหนดีเยี่ยมจริง ๆ ในตลาดทุน
- แล้วระบบของการเทรดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ต่อให้เรามีมาตรวัดอันมากมาย แต่การใช้งานจริงก็ต้องดูบริบทร่วมด้วย
- อย่าลืมสังเกตว่าเราถนัดระบบแบบใด เส้นค่าเฉลี่ยแบบหนึ่งก็เหมาะกับเรา หรือเหมาะกับตลาดหนึ่งเท่านั้น
- ปัญหาของชีวิตก็คือ ไม่มีอะไรที่จะกำหนดได้อย่างถาวร ปัญหาของการเทรดก็ย่อมไม่มีอะไรเป็นอย่างนั้นตลอดไป
- ความเสี่ยง 0% ไม่มีอยู่จริง อย่าเทรดแบบไม้เดียวแล้วกำไรเยอะ ๆ แต่จงเทรดอย่างไรในระยะยาวให้สามารถกำไรได้จะดีกว่า
-
มีคนมาปรึกษาว่า ขอความเห็นจากเพื่อน ๆ ค่ะ คือว่าเรากับแฟนตอนนี้อยู่ห่างกันคนละประเทศ แล้วล่าสุดรู้มาว่าเขาแอบชอบเพื่อนเขาค่ะ แล้วเขาก็ว่าจะตัดใจห่างกับเพื่อนคนนี้ไป หลัง ๆ ก็เห็นว่าเขาพยายามปรับปรุงตัว ห่างมาได้ แล้วจู่ ๆ วันนึงเขาก็มาเล่าให้ฟังว่า มีบางความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาว่าเขาหวง หึง เพื่อนคนนี้ที่เขามีเพื่อนผู้ชายอีกคนมาคุย คือเราควรจะทำยังไงดีคะ ควรตัดใจจากแฟนดีไหม หรือรีบไปอยู่ข้าง ๆ เขา เพราะเขาให้เหตุผลว่าเราห่างกันเกินไป เลยทำให้ใจเขาวอกแวกไปมา
- การอยู่ห่างกัน อาจจะมีส่วนทำให้เราลืมกันไปได้ แต่มันอยู่ที่พันธะมากกว่าว่าเหนียวแน่นเพียงใด
- บางคนสนิทกันมาก ต่อให้อยู่ไกลกันก็ยังคุยกันตลอดเวลา จนเหมือนว่าอยู่ใกล้กันมาก
- แต่ละคนจึงแตกต่างกันไป บางคนอยากอยู่ใกล้ชิดจริง ๆ ไม่ใช่ต้องการแต่สนทนากันเพียงอย่างเดียว
- ถ้าเรามั่นใจว่าการย้ายไปต่างประเทศอยู่ด้วยกัน มันทำให้ความสัมพันธ์มันรุดหน้าไปได้จริง ก็ลองดู
- ทั้งนี้ ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวว่า การจะตัดใจหรือไปพัฒนาความสัมพันธ์ทางใดจะดีกว่า เพราะมีแต่เราเท่านั้นที่รู้ใจตัวเอง
- Laat meer zien