Afleveringen
-
สิ่งที่เป็นภัยมากที่สุดคือตัวมิจฉาทิฏฐิ ยิ่งพวกเซลฟ์จัด แล้วก็จัดแบบไม่รู้ถูก ความถูกต้อง เผยแพร่ออกไป พวกนี้อันตราย ระมัดระวังของเรา ความชั่วทั้งหลายอย่าไปทำ ความดีมีโอกาสทำ ให้รีบทำเสีย อย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไป น่าเสียดาย ควรจะทำดีได้ 10,000 ครั้ง ก็ปล่อยเวลาทิ้งไป เลยได้ 9,000 ครั้ง น่าเสียดาย ขาดทุน พวกเรามีโอกาสเรียนธรรมะ ก็ตั้งอกตั้งใจเรียน สิ่งที่เราจะได้มาคือตัวสัมมาทิฏฐิ สิ่งที่เราจะหมดไปสิ้นไปคือตัวมิจฉาทิฏฐิ ไม่มีอะไรมีโทษร้ายแรงเท่ามิจฉาทิฏฐิ ร้ายกาจ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี แล้วก็ตัวเองไม่รู้ผิดชอบชั่วดี แล้วชวนคนอื่นให้ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีไปด้วย มันเป็นกรรมซ้ำซ้อน มากมายเหลือเกิน หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 24 สิงหาคม 2567
-
Zijn er afleveringen die ontbreken?
-
เครื่องมือสำคัญที่เราจะอ่านความปรุงแต่งของจิตออก มีเครื่องมือหลักๆ 2 ตัว สติกับสมาธิ สติเป็นตัวรู้ทัน สังเกตจิตใจเรามีความปรุงแต่งใดๆ เกิดขึ้นให้รู้ทัน ปรุงสุข ปรุงทุกข์ ให้รู้ทัน ปรุงเฉยๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์ ให้รู้ทัน ปรุงดี ปรุงชั่ว ให้รู้ทัน หัดรู้ทันความปรุงแต่งไป แล้วต่อไปเราจะเห็นความปรุงแต่งกับจิตมันทำงานด้วยกัน เกิดมาด้วยกัน แต่มันเป็นคนละอันกัน ความโกรธก็อันหนึ่ง จิตก็อันหนึ่ง ความโลภกับจิตก็คนละอัน ความหลงกับจิตก็คนละอันกัน เพราะธรรมชาติของจิตนั้นผ่องใส แต่ว่าสิ่งปรุงแต่งนี้ทำให้จิตเรามอมแมมไป หัดรู้หัดดูไป หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 28 สิงหาคม 2567
-
ธรรมชาติของจิตย่อมส่งออกนอก แต่ถ้าส่งออกนอกแล้วเราไม่รู้ทัน มันก็จะเป็นสมุทัย เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ จิตที่ออกนอกมันไปด้วยกำลังของตัณหา มันผลักดันออกไป ผลที่ตามมาคือทุกข์ทั้งสิ้น มีภาระทางใจเกิดขึ้นเรียกว่าทุกข์ ท่านก็เลยสอนบอกว่าอย่าส่งจิตออกนอก แต่ธรรมดาจิตย่อมส่งออกนอก แต่เมื่อจิตส่งออกนอกแล้วให้มีสติรู้ทัน ตรงนั้นล่ะท่านบอกอันนั้นคือการเจริญมรรค ถ้าจิตออกนอกแล้วเรามีสติรู้ทัน ศีล สมาธิ ปัญญาจะเกิดขึ้น เวลาจิตส่งออกไป ถ้าเราไม่มีสติกิเลสจะเกิด ในทางกลับกัน ถ้าจิตออกนอกแล้วเรารู้ทัน จิตหลงไปดูรูป รู้ว่าจิตหลงไปดูรูป จิตที่หลงไปดูรูปจะดับ จะเกิดจิตที่เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานขึ้นมา จิตหลงไปฟังเสียงแล้วเรามีสติรู้ทันว่าจิตหลงไปฟังเสียง จิตที่หลงไปฟังเสียงก็จะดับ ก็จะเกิดจิตผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานขึ้นมา จะเกิดอย่างนั้น เพราะฉะนั้นตรงที่เรามีสติรู้ทันจิตที่ส่งออกนอก จิตที่ส่งออกนอกจะดับ แล้วจะเกิดจิตที่ตั้งมั่นขึ้นมาแทน ตรงจิตออกนอกเรารู้ทัน กิเลสจะครอบงำจิตเราไม่ได้ ศีลอัตโนมัติจะเกิดขึ้น เพราะคนทำผิดศีลเพราะถูกกิเลสครอบงำ แล้วจิตออกนอกเรามีสติรู้ทัน จิตที่ออกนอกดับ จิตที่ตั้งมั่นจะเกิดขึ้นมาแทนที่ สมาธิที่ถูกต้องก็จะเกิดขึ้น แล้วต่อไปถ้าจิตออกนอกอีกเราก็รู้อีก ต่อไปปัญญาจะเกิด มันก็จะเห็นจิตที่ออกนอกมันก็ไม่เที่ยง หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช บ้านจิตสบาย 18 สิงหาคม 2567
-
เราค่อยภาวนาจากสิ่งที่หยาบๆ ไปสู่ความละเอียดประณีต ถึงจิตถึงใจมากขึ้นๆ เป็นลำดับไป จนวันหนึ่งจิตเราพ้นจากอาสวกิเลส รู้ไปเป็นลำดับๆ ไป มันจะค่อยละเอียด ค่อยประณีตมากขึ้นๆ ทีแรกไม่ต้องคิดมาก ถ้าเราจะดูกาย เราก็เห็นร่างกายไปเลย ด้วยจิตใจธรรมดาอย่างขณะนี้ เห็นร่างกายมันนั่ง ร่างกายที่นั่งอยู่มันถูกรู้ถูกดู ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา ขั้นแรกยังเจือการคิดว่าไม่ใช่เรา ต่อไปจิตมันรู้ชำนิชำนาญแล้ว พอรู้สึกถึงร่างกาย มันไม่เห็นความเป็นเราอยู่ในกายเลย แล้วฝึก จิตใจมีกำลังขึ้นมาก็เห็นนามธรรมได้ ก็จะเห็นความสุข ความทุกข์ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาเหมือนกัน เห็นกุศลอกุศลทั้งหลายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาเหมือนกัน หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 17 สิงหาคม 2567
- Laat meer zien